วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จับประเด็น : เหลียวหลังแลหน้าการศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาสารคาม




เหลียวหลัง

คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักศึกษาทั่วไป 

  • ๒๖ กันยายน ๒๕๕๑ สภามหาวิทยาลัยอนุมัติให้ท่านมาเป็นรักษาการเป็น ผู้ช่วยอธิการบดี  และมาเป็น รักษาการ ผอ. ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ มารักษาการ และมาเป็น ผอ. ในเวลาต่อมา 
  • ภารกิจของสำนักศึกษาทั่วไป คือจัดการเรียนการสอนตามคำสั่ง สกอ. ๓๐ หน่วยกิต 
  • ตอนนั้นมีรายวิชาทั้งหมด ๑๖๑ รายวิชา  สิ่งที่ทำขณะนั้นคือการจัดระบบรายวิชา จากแต่ละคณะวิชามารวมกัน  มีอาจารย์จากคณะ-วิทยาลัยต่างๆ มาช่วยกันสอนรวมแล้ว ภาคเรียนละ ๓๐๐ ท่าน
  • ตอนปี ๒๕๕๔ มีรายวิชาอยู่ ๑๑๔  และสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างเป็นระบบ รองรับนิสิตกว่า ๘ หมื่นที่นั่งต่อปีการศึกษา
  • รูปแบบการศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยต่างๆ แตกต่างกันไป  หลายมหาวิทยาลัยจัดไว้ที่คณะ-วิทยาลัย  บางมหาวิทยาลัยจัดกลุ่มรายวิชาไว้ตรงกลาง ยังไม่มีรูปแบบสำเร็จใด ๆ แต่ละมหาวิทยาลัยต่างจัดการเรียนการสอนรายวิชาศึกษาทั่วไปในสไตล์ของตนเอง
 รศ.ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล รองอธิการบดี (รับผิดชอบงานกองกิจการนิสิต ขณะนั้น)
  • กองกิจการนิสิตเกี่ยวกับการศึกษาทั่วไปอย่างมาก  เพราะเป้าหมายเดียวกันคือสร้างคนที่เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
  • โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก  โจทย์สำคัญคือ เราจะสอนอย่างไรให้เขามีความสุขได้ในการดำเนินชีวิต วิชาศึกษาทั่วไปจะทำอย่างไรให้นิสิตจากหลากหลายสาขา สามารถปรับตัวได้ในการเปลี่ยนแปลงนั้น 
  • วิชาศึกษาทั่วไป คือรายวิชาที่สำคัญที่สุด  เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างนิสิตให้คุณลักษณะตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
  • สำนักศึกษาทั่วไป มีหน้าที่เป็นผู้ประสาน ให้อาจารย์จากทุกสาขาวิชา มาร่วมกันสร้างเด็กที่มีทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิต
  • สำนักศึกษาทั่วไปและกองกิจการนิสิตต้องคิดร่วมกันว่า จะพัฒนานิสิตอย่างไร ให้ได้นิสิตที่มีคุณภาพให้กับสังคม ให้เขาสามารถอยู่ได้ดีในยุคนี้ 
  • อาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป คือผู้เสียสละเพื่อพัฒนานิสิตจริง ๆ 
รศ.ดร.โรจน์ชัย ศัตรวาหา
  • รายวิชาศึกษาทั่วไป แต่ก่อนเคยเป็นวิชาเลือก ต่อมา สกอ. ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นรายวิชาศึกษาทั่วไป 
  • หลักสูตรทั้งหมดต้องการสร้างคนที่มีลักษณะ ๒ ประการ คือ สร้างคนดีและสร้างคนเก่ง  เรื่องการสร้างคนเก่งนั้นเป็นหน้าที่ของสาขาวิชา  แต่เรื่องการพัฒนาคนดีนั้น คือหน้าที่หลักของสำนักศึกษาทั่วไป 
  • ดังนั้นหน้าที่ของอาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป คือต้องสร้างคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ที่สามารถนำเอาทักษะวิชาชีพที่ได้เรียนจากสาขาวิชาไปพัฒนาสังคมได้ 

ศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร มากตุ่น
  • อาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไปเป็นผู้มีคุณค่ามาก 
  • นิสิตต้องเป็นบุคคลที่มีทั้ง "มูลค่า" และ "คุณค่า" 
  • เป้าหมายของรายวิชาศึกษาทั่วไปคือ "มนุษย์ที่สมบูรณ์"  
  • อาจารย์ควรมองนิสิตเป็นเหมือนลูกเหมือนหลาน 
  • สิ่งสำคัญสำหรับนิสิตสมัยนี้คือ "ทักษะในศตวรรษที่ ๒๑" 
  • การพัฒนานิสิตต้องเป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF)  ๕  ด้าน 
  • ทักษะในศตวรรษที่ ๒๑  3R4C  มีทักษะการเรียนรู้ (อ่าน เขียน คิดเลข) ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สร้างสรรค์ และสามารถทำงานร่วมกันผู้อื่นได้ 
  • รายวิชาศึกษาทั่วไป จะมีรายวิชาต่างๆ หลากหลาย แต่ละวิชาก็จะเติมเต็มคุณลักษณะตามกรอบ TQF ได้ครบถ้วน 
รศ.ดร.อนงค์ฤทธิ์  แข็งแรง
  • รายวิชาศึกษาทั่วไป คือวิชาที่จะสร้างรากฐานของคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของบัณฑิต 
  • การปรับหลักสูตร พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนานิสิตไปสู่เป้าหมาย การบูรณาการรายวิชาจาก ๑๑๔ รายวิชา ลงมาเหลือ ๓๒ รายวิชา (เลือกเรียน ๑๔ วิชาจาก ๒๐ วิชา และเลือกอีก ๑ วิชาจาก ๑๒ วิชาเลือกเพิ่มเติม) เพื่อให้นิสิตทุกคนได้เรียนรายวิชาในกลุ่มวิชาหลักคล้ายคลึงกัน  จะสามารถสร้างนิสิตที่มีคุณลักษณะนิสิตที่พึงประสงค์ของหมวดวิชาศึกษาทั่วไปทั้ง ๙ ประการ  (หลักสูตรเดิม นิสิตจะเลือกเรียนเฉพาะรายวิชาที่ตนต้องการเท่านั้น)
  • กำหนดรายวิชาหนึ่งหลักสูตหนึ่งชุมชน เป็นรายวิชาบังคับเลือก ให้อาจารย์แต่ละหลักสูตรเข้ามาเป็นผู้ขับเคลื่อน บูรณาการกับโครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน   คือ เอาหลักสูตรเป็นตัวตั้งในการบูรณาการการเรียนการสอนกับการบริการวิชาการสุ่ชุมชน
  • GE จะเป็นผู้ประสานงาน ให้คณาจารย์และคณะ-วิทยาลัย เข้ามาร่วมกันพัฒนาร่วมกัน
  • GE มีศูนย์ทดสอบ E-Testing และจะพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์สอบก่อนเข้าเรียน Entrance - Exit Exam และพัฒนาควบคู่ไปกับคลังข้อสอบ 
  • พัฒนาระบบบริหารจัดการให้เป็นไปอย่างมีส่วนร่วมมากขึ้น ให้ GE เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาที่ยึดหยุ่นต่อความต้องการของหลักสูตร  ให้แต่ละคณะ-วิชาเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย  โดยให้ GE เป็นผู้นำไปปฏิบัติ 
  • จะมีหลักสูตร Training อาจารย์ผู้สอน เพื่อเสริมศักยภาพการเรียนการสอนของอาจารย์
  • GE จะมีหน้าที่ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน ให้ทันสมัย เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ 
  • ทำวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนและการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไป  
แลหน้า
  • เรียนรายวิชาศึกษาทั่วไปได้เกรด A  แต่พอตกตอนเย็น เดินเข้าร้านเหล้า ดื่มเหล้า เที่ยว  ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะทำอย่างไร   เราสอนกันมาก แต่รอบ ๆ มหาวิทยาลัย มีร้านเหล้ารายรอบอยู่เต็มไปหมด  เราจะทำอย่างไร?
  • ฝากอาจารย์ทุกท่านให้สอนการดำเนินชีวิตให้กับนิสิตด้วย  ช่วยสอนการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท  ทำอย่างไรให้เอาตัวรอดได้  ทำอย่างไรให้นิสิตภาคภูมิใจในความเป็นตัวของตนเอง  ไม่ลืมไม่ดูถูกรากเหง้าของตนเอง
  • เด็กส่วนหนึ่งไม่มาเรียน เราจะทำอย่างไร  เราจะทำอย่างไรให้นิสิตเราตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้  
  • ดังนั้นเรื่องศึกษาทั่วไปเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะอาจารย์ผู้สอนรายวิชาศึกษาทั่วไป 
  • อาจารย์ต้องเป็น "แบบอย่างที่ดี" ให้กับเด็ก  ขอให้อาจารย์ผู้สอนทุกท่านตั้งหลักให้ถูกต้องว่า เรากำลังทำเพื่อเด็ก  เด็กของเราต้องรู้ว่า อะไรควรหยุด รู้ถึงความพอดีในการดำเนินชีวิต ขอให้ท่านทั้งหลายถ่ายทอดประสบการณ์ของท่านให้กับนิสิต  สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างคนดีที่เก่ง  ไม่ใช่คนเก่งที่ไม่ดี  
  • ฝากเรื่องวินัย เรื่องจราจร การใช้ถนน การจอดรถ ซึ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยของนิสิต
  • ฝากว่า... ทุกวิชามีความสำคัญ  
  • เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน และเปลี่ยแปลงจากเดิมไปมาก  ดังนั้น อาจารย์ผู้สอนมีความสำคัญมาก เพราะต้องออกแบบการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
  • ควรสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนการสอนเสมอ โดยเฉพาะคุณธรรมพื้นฐาน เช่น พรหมวิหาร ๔  เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา  อิทธิบาท ๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา  ฯลฯ 
  • เด็กของเราอาจจะไม่เก่งเท่ากันทุกคน แต่ควรจะเป็นคนดีทุกคน 
  • ฝากเรื่องน้ำใจของเด็กสมัยนี้  ที่หายไปจากเดิมเยอะ  
  • การเรียนรู้สำคัญมาก  รายวิชาศึกษาทั่วไป อาจไม่จำเป็นต้องเรียนในชั้นเรียนมากเกินไป  ควรจะออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่บ้าง เพื่อปลูกฝังสิ่งที่สำคัญมากๆ ในสมัยนี้คือ  public mind (จิตสาธารณะ)
  • วันนี้  ๗ ปีนี้  เปรียบเหมือนการเดินทาง ๗ ก้าว  หากมีความสำเร็จใด ๆ ก็ขอยกเป็นเครดิตของ อาจารย์ผู้สอนทุกท่าน 
  • GE ควรจะพัฒนาศูนย์สอบ E-Testing ต่อไป 
  • ขอขอบคุณทุกท่าน GE จะมุ่งมั่นทำงานต่อไป น้อมนำเอาสิ่งที่ท่านพูดวันนี้ไปทำ ให้เป็นมรรคผลให้จงได้ 
  • GE จะเป็น GE ของพวกเราทุกคน

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จับประเด็น : ทำไม? ความพอเพียงจะทำให้ประเทศไทยอยู่รอด ตอนที่ ๓


  • คนไทยสมัยนี้ มี "มายาคติ" เยอะมาก เนื่องจากคนไทยที่บริหารประเทศอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ไปเรียนเรื่องเหล่านี้มาจากอเมริกา  ทำให้อิทธิพลทางความคิดของชนชั้นนำที่มีโอกาสได้ไปเรียนด้วยทุนการศึกษาจากต่างชาติ รวมทั้งทุน กพ.  รับเอาแนวคิดมาขยาย ทำให้ประเทศค่อยๆ กลายเป็นตะวันตก 
  • การพัฒนาตามตะวันตก จะเริ่มด้วยการ "รับจ้างทำของ"  ประเทศแรกเลยคือ ญี่ปุ่น  เพราะค่าแรงถูก  ต่อมาคือ ไต้หวัน  มาฮ่องกง ไปที่มาเลเซีย  มาไทย จากไทยไปเขมร ไปเวียดนาม ไปอินเดีย และต่อไปที่บังคลาเทศ
  • อเมริกา จะควบคุมและสนใจอยู่ ๒ อย่าง หนึ่งคือการตลาด อีกอย่างคือการวิจัยพัฒนา R&D (หรือคุณภาพ)  อเมริกันเป็นคนออกแบบแล้วจ้างผลิต ยกตัวอย่างเช่น รองเท้า NIKE  ที่แต่ก่อนมาจ้างโรงงานในไทยผลิต จนต่อมาโรงงานในไทยนำเทคโนโลยีเดียวกันไปผลิตร้องเท้า PAN  ทั่วโลกรู้จักแต่ NIKE แต่ไม่รู้จัก PAN ....  เพราะอะไร?... เพราะอเมริกันจ้างโฆษณามหาศาล ยอมจ่ายเงินหลายล้านบาทเพื่อให้โลโก้ตัวเองติดบนหน้าออกเสื้อนักกีฬา
  • บริษัท Apple ไม่มีโรงงานเป็นของตนเอง มาจ้างบริษัทไต้หวันชื่อ Foxconn และจีนผลิต
  • ด้วยเหตุผลนี้ ตะวันตกจะสนใจเรื่องลิขสิทธิ์มากและป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
  • แต่ความที่คนญี่ปุ่นเป็นคนขยัน มีระเบียบวินัย ละเอียด และสร้างสรรค์  เมื่อทำได้ที่ก็เริ่ม "ทำของตนเองขึ้นมา" ทำให้ก้าวมาเป็นแนวหน้าได้ 
  • จีนเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ที่ปักกิ่ง ที่พระราชวังต้องห้ามนั้น คนไม่มี แต่สมัยนี้คนเต็มไปหมด  จะเห็นว่าโลกาภิวัตน์ทำให้อัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นมหาศาล  ดังนั้นทรัพยากรธรรมชาติ ก็ยังเป็นเป้าหมายของการล่า
  • เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว การสื่อสารที่ทันสมัยมี่สุดคือ Fax  หากทำธุรกิจส่งแฟ็คไปอเมริกา หน้าหนึ่งอาจใช้เวลาประมาณ ๔ นาที ถ้าสิบหน้าก็ใช้เวลา ๔๐ นาที แต่สมัยนี้ส่งอีเมล์ใช้เวลาเพียง ๑๕ วินาที แสดงว่า ความเร็วรอบของการสื่อสารเร็วขึ้นถึง ๑๖๐ เท่า .... เมื่อลองเปรียบเทียบกับการบริโภค ก็เพิ่มขึ้นในอัตรามากเช่นกัน  ... นี่คือสาเหตุของการเร่งการผลิตทั่วโลก 
  • ทุกอย่างต้องเร่งผลิต หลายอย่างจึงผิดธรรมชาติ  ไก่ฮอร์โมน  การตัดแต่งพันธุกรรม การเผาพลาญน้ำมันจำนวนมหาศาล   
  • ผลก็คือทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายอย่างรวดเร็ว  จนทำให้เกิดภัยธรรมชาติตามมามาก

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จับประเด็น : ทำไม? ความพอเพียงจะทำให้ประเทศไทยอยู่รอด ตอนที่ ๒


  • ทุกวันนี้คนจบปริญญาตรี เงินเดือนอยู่ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท ถามว่า มีทางไหมที่จะลืมตาอ้าปากมาเป็นผู้ประกอบการบ้าง?  
  • ยกตัวอย่าง หากคุณทำขนมชื่อ "ชาญหญิง" อร่อย...ขายดี...อยากขยายงาน คุณเลยไปเจรจา 7-eleven   ปรากฎว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากหมื่นกล่องเป็นแสนกล่อง สองแสนกล่อง คุณกำลังจะได้เป็นเฒ่าแก่น้อยแล้ว...แต่วันหนึ่ง 7-eleven บอกว่า  ให้คุณผลิตวันละ สามแสนกล่อง   แต่ขอเปลี่ยนเป็นยี่ห้อง 7-eleven  หากไม่ทำก็จะไม่ให้ขายในร้าน ... คุณก็ต้องยอม คุณก็ไม่ได้เป็นเฒ่าแก่น้อยแล้ว ...
  • ปัญหาไม่ใช่ ผู้นำไม่เข้าใจ ปศพพ. แต่ปัญหาคือ ผู้นำประเทศไม่เอามาปฏิบัติ 
  • ทุกวันนี้นักวิชาการบางท่านยังสอนอยู่เลยว่า การปกครองของประเทศไทยประกอบด้วย ๓ อำนาจ ได้แก่ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลากร ไม่ก้าวก่ายกัน ......  ความจริงมันพิสูจน์แล้วว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ....   
  • หนังสือทุกวันนี้ ชอบจับกิเลสคน คือ อยากได้ อยากเป็น อยากมี  สอนให้คนโกงภาษี สอนให้เอาเปรียบคนอื่น ฯลฯ 
  • ไม้ตายหรือจุดแข็งของค่ายโลกเสรีคือ สื่อ ที่มีจำนวนมาก ต่างจากค่ายหลังม่ายไม้ไผ่และหลังม่านเหล็กที่มีสื่อน้อยกว่า 
  • "บ่อปลา" อย่างหนึ่งคือของระบบโลกเสรีคือ  "Fake demand" คือความต้องการเทียม เช่น อะไรที่ไม่จำเป็นแต่มันทำให้คนรู้สึกว่าจำเป็น  หรือ บางทีประกาศสร้างคอนโดฯ ยังไม่ลงเสาเลย สื่อบอกว่ามีคนจองไปแล้วเกือบ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ....คนก็เชื่อแล้วรีบไปจอง ฯลฯ 
  • นักจิตวิทยาอเมริกัน ๒ คน ชื่อ ทิม แคสเซอร์ และ ริชาร์ด ไรอัน พบว่า นักเรียนอเมริกันยุคนี้ ถือเอาความสำเร็จด้านการเงินไว้เหนือพัฒนาการด้านจิตใจ ความสงบสุนในครอบครัว และการช่วยกันรักษาโลกให้น่าอยู่ 
  • ทั้งสองบอกว่า คนที่หลงไหลในวัตถุจะชอบดูโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการที่นำเสนอชีวิตผู้คนที่ดำรงอยู่อย่างโก้หรูเกินจริง และโฆษณาที่มุ่งสร้างความไม่พอใจกับทรัพย์สินที่มีอยู่ ดังนั้นผู้ที่ชอบดูโทรทัศน์ จึงมักไม่พอใจในชีวิตของตนเอง มีขวัญและกำลังใจต่ำ และ รู้สึกว่าตนเองอยู่ในฐานะที่ด้อยกว่าผู้อื่น 
  • พวกที่ดูโทรทัศน์ จะเสี่ยงต่อความที่ "ไม่พอเพียง" อยู่ตลอดเวลา  เนื่องจาก บนโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะมีแต่รายการหรือโฆษณาที่ยั่วกิเลส ความอยากได้ตลอดเวลา 
  • ปัจจุบันสถิติการหย่าร้างเพิ่มขึ้นมาก  เหมือนกับฝรั่ง แต่ความแตกต่างกันตรงที่ เมื่อหย่าร้าง ฝรั่งจะทะเลาะกันเพื่อเอาลูกไปเลี้ยง  แต่ชายไทยไม่ทะเลาะเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะหนีหายไป ปล่อยให้แม่เลี้ยง 
  • ตอนนี้ จบ ป.ตรี สมมติว่ามีงาน ๑๕,๐๐๐ บาท  ชีวิตในกรุงเทพค่าที่พัก ๔,๐๐๐ บาท  ค่ารถ ๓,๖๐๐ ต่อเดือน ค่ากิน ๓,๐๐๐ บาท  เงินจะเหลือ ๒,๔๐๐ บาท  สมมติเก็บเงินเป็นจะได้เงินเก็บต่อปี ๒๘,๐๐๐ บาท.... คำถาม คือ จะเก็บเงินกี่ปีถึงจะซื้อบ้านได้ ... นี่คือสาเหตุที่ลูกหลานของเราต่อไปจะต้องผ่อนดาวน์บ้านชั่วชีวิต  เด็กสมัยใหม่ที่จบ ป.ตรี จึงไร้อานาคต 
  • ในปี ๒๕๔๓ ครอบครัวอเมริกันเกือบจะไม่มีเงินออม ครอบครัวในอังกฤษกว่าร้อยละ ๕๐ ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง 
  • เด็กอเมริกันใช้ของเล่น ร้อยละ ๔๕ ของการผลิตทั้งหมดในโลก เด็กอเมริกันได้ของเล่นเพิ่มเฉลี่ยคนละ ๗๐ ชิ้นต่อไปี คนอเมริกันใช้งบโฆษณามากที่สุดในโลก คิดเป็น ๒๑๔,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ ๕๐ ของโฆษณาทั่วโลก และในจำนวนนี้  ๑๒,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ เป็นโฆษณามุ่งเป้าไปยังเด็ก  ทำให้เด็กอายุ ๑๒ ปี เห็นโฆษณามาแล้วกว่า ๒๐๐,๐๐๐ ครั้ง และกลายเป็น "นักบริโภคนิยมเต็มตัว"  เหมือนพ่อแม่ เมื่อเขาโตเหมือนผู้ใหญ่ 
  • ทั่วโลก... กำลังดำเนินรอยตาม คือสร้าง "นักบริโภคนิยม"  
  • ปี ๒๕๒๒ - ๒๕๔๒  ร้อยละ ๙๕ ของความมั่งคั่งจำนวน ๑,๑๐๐ พันล้านดอลล่าร์ เข้ากระเป๋าคนเพียงร้อยละ ๕ เท่านั้น 
  • ในระดับโลก ร้อยละ ๘๐  อยู่ใต้เส้นของความยากจน  ชาวโลก  ๑,๐๐๐ ล้านคน ไม่สามารถตอบสนองความจำเป็นของตนเได้ 
  • ทุนนิยมจะมาพร้อมกับ  "ประชาธิปไตย จอมปลอม"  และ "การคุมสื่อมวลชน" เพื่อให้ประชาชนเชื่อในสิ่งที่ทุนนิยมต้องการ  เสรีนิยมดีอย่างไร   ทำให้เกิด "ฝูงชนที่งุนงง"  
  • วอลเตอร์ ลิปแมน  เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่เก่งมาก  ต่อมาเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการก่อตั้ง CFR ซึ่งเป็นที่รวมของบริษัทยักย์ใหญ่ ที่คุมระบบทุนนิยมของโลกอยู่ ณ ขณะนี้ 
  • นักวิชาการต่างๆ ทั้งหมดที่คุณสนธิยกมา บอกว่า รุบบทุนนิยมเสรี ไม่ดี ... ตราบใดที่ไม่มีศีลธรรม ....

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จับประเด็น : ทำไม? ความพอเพียงจะทำให้ประเทศไทยอยู่รอด ตอนที่ ๑


  • ​ก่อนจะเข้าใจตนเอง เข้าใจประเทศไทย ต้องเข้าใจภาพรวมของโลกก่อน  
  • สิ่ง ที่เป็นอยู่ในประเทศไทยตอนนี้ เป็นผลพวงของ "ทุน"  ทุนนิยมต่างชาติที่เข้ามาเชื่อม หรือสัมพันธ์กับประเทศไทยเป็นเนื้อเดียวกันหมดแล้ว  
  • ดังนั้นก่อนจะเข้าใจประเทศไทย เราต้องเข้าใจ "ทุนนิยมเสรี" เสียก่อน
  • ปี ๒๔๗๕ - ๔๓๒ = 1932  สิ่งที่เกิดขึ้นกับกำแพงเบอร์ลิน ส่งผลมาจนทำให้เศรษฐกิจประเทศไทย "พัง"   ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น 
  • ปัญหา ของคนไทยตอนนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ คนไทยขาด "ปัญญา" สิ่งที่คุณสนธิกำลังทำอยู่นี้คือการเสริมปัญญาของคนไทย  ... หัวใจของการแก้ปัญหา 
  • นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ คือ โอริเวอร์ เจมส์  เสนอหลักคิด ฉันทามติกรุงวอชิงตัน  ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน 
  • แต่ก่อนโลกแบ่งออก เป็น ๒ ค่าย คือ ค่ายโลกเสรี และอีกค่ายคือ ค่ายหลังม่านเหล็กก็คือรัสเซีย  ต่อมามีจีนเกิดขึ้น เขาเรียก ค่ายหลังม่านสไม้ไผ่
  • กำแพงเบอร์ลิน เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งโลกออกเป็นสองส่วนคือ โลกเสรีและโลกคอมมูนิสท์  ครั้งหนึ่งจอน เอฟ เคนเนดี้ ไปพูดเรื่องโลกเสรีที่เบอร์ลิน ทำให้กำแพงเบอร์ลินเป็นข่าวดังไปทั่วโลก กลายเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งโลกในเวลาต่อมา
  • วิธี ทางตะวันตก จะริเริ่มจาก "นักคิด"  จะเสนอความคิดขึ้นมา  ฝ่ายต่างๆ นักวิชาการ นักข่าว สื่อมวลชน ค่อยเอาหลักคิดเหล่านั้นมาสื่อสาร  ถ้าความคิดดี ถ้าใช่ ก็ส่งเสริมกันไป จนกลายมาเป็นทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับ 
  • นักคิดชื่อ แซม มัวร์ พี ฮัตติงตัน บอกว่า การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน  คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของวัฒนธรรม ระหว่างประเทศมุสลิมกับประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ...ผ่านหนังสือ  the crash of civilization 
  • นักคิดอีกคนชื่อ ฟรานซิส ฟูกูยาม่า  เขียนหนังสือชื่อ  the end of the history จุดจบของประวัติศาสตร์  บอกว่า จากนี้ไปไม่มีโลกคอมมิวนิสท์แล้ว เหลืออยู่โลกเดียวคือ โลกการตลาด ซึ่งเป็นผลพวงจากการค้าเสรีที่เกิดขึ้น 
  • มีนักคิดอีกคนหนึ่งบอกว่า  กติกาของโลกใหม่ต้องเป็น "ฉันทามติกรุงวอชิงตัน"  ๓ ข้อ ได้แก่  ๑ เงินทุนต้องเดินทางไปทั่วโลกได้  ๒ รัฐบาลต่าง ๆ ต้องไม่มีการต่อต้าน  และ ๓ รัฐบาลต่างๆ ต้องมีเสถียรภาพ 
  • ข้อที่ ๒ เช่น กฎหมายขายชาติ ๑๑ ฉบับ  ซึ่งล้อ Washington Consensus  
  • ต่อมาเกิดลัทธิ "เสรีนิยมใหม่" กับ "อนุรักษ์นิยมใหม่"  ทะเลาะกันในอเมริกา  แต่ทั้งสองก็คือ "ทุนนิยมใหม่" ที่ยึดเอาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก 
  • ทุนนิยมใหม่ เกิดขึ้นอย่างไร? 
  • เกิดขึ้นเพราะ คนรวยรวมตัวกัน เพราะกำไรตนเองน้อยลง เพื่อใช้กระบวนทัศน์เดียวกันทั่วโลก  เช่น  ๘๐ ปีที่แล้ว เกิด "สภาหอการค้า"  ซึ่งขยายตัวไปทั่วโลก 
  • เมื่อมีเงิน พวกพ่อค้าก็เริ่มหา "อิทธิพล"  โดยการซื้อ "อำนาจ" จากการเข้าหานักการเมือง 
  • คนที่พูดเรื่อง "ทุน" คนแรกคือ อดัมสมิท (ในศตวรรษที่ ๑๘) บอกว่า  ทุนเป็นของดี หากไม่มีทุนจะพัฒนาได้ยาก ดังนั้นจึงไม่ควรไปต่อต้านเรื่องทุนหรือแทรกแซงจากรัฐ ซึ่งสวนทางกับแนวคิดของระบบกษัตรย์ในขณะนั้น 
  • อังกฤษก็เริ่มพัฒนาระบบทุนนิยมมาเรื่อย ๆ และขยายไปทั่วยุโรปผ่านความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดกษัตริย์  ทำให้เกิดความขัดแย้งกับระบบกษัตริย์ต่าง ๆ ในยุโรป  กอปรกับระบบกษัตริย์กำลังเสื่อม  ทำให้เกิดสงครามไปทั่ว  และก่อเกิด "นายทุนกษัตริย์" ขึ้น 
  • นายทุนกษิตริย์ที่สำคัญคือ บารอน รัดชาวน์ ที่เป็นเจ้าของธนาคารรัดชาวน์ที่เจ้งไปที่สิงคโปร์ 
  • ต่อมานักคิดชื่อ จอน เบนาร์ด เคน  คิดทฤษฎี "เคนเซี่ยน" ขึ้นมา บอกว่า  หากเศรษฐกิจมีปัญหา รัฐต้องเข้าไปลงทุน  เพื่อให้เกิดการว่าจ้างงาน ซึ่งถูกเอามาใช้ในยุโรป และขยายไปยังฝั่งอเมริกาด้วย 
  • ข้ามมาเวลามายุคนี้  ทุกคนเล่นหุ้นตามความคิดของ "มิลตัน ฟริตแมน"  ประเภทเล่นหุ้นแบบซื้อมาขายไป ซื้อเช้าขายบ่าย ฯลฯ  ฟริตแมนบอกว่า  ๑) ความสำเร็จของการลงทุน ตัดสินกันที่การเล่นหุ้นระยะสั้น ๒) อะไรที่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานควรรัฐควรให้เอกชนเข้ามาแข่งขัน เช่น ไฟฟ้า ประปา รถไฟ ๓) การลดละเลิกกฎระเบียบ การให้นายจ้างเป็นกำหนดค่าจ้างได้อย่างเสรี ลดภาษีคนรวย  ฟริตแมนจะเชื่อว่า อย่าไปเก็บภาษีคนรวย เพราะคนรวยจะเอากำไรที่ได้มาลงทุนต่อ ๔) การบริโภคและความต้องการของตลาด จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
  • หากดำเนินตามความคิดของฟริตแมน จะทำให้เกิดการ "รวยเป็นประจุก จนกระจาย" ซึ่งไทยก็มาถึงจุดนี้แล้ว 
  • ในขณะที่คนรวยทำแบบ "ฟรติแมน" แต่ "เคนเซี่ยน" ก็ยังอยู่   พวกที่เห็นแก่ตัวแบบฟริตแมน พอได้เข้าไปมีอำนาจรัฐ ...จึงทำให้เกิด "ประชานิยม" นั่นเอง 
  • แต่แทนที่สหภาพต่างๆ จะต่อต้านการขยายตัวของ "ทุนนิยมสามานย์" แต่กลับสร้างอาณาจักรของตนเอง มีผู้นำใช้สินค้าฟุ่มเฟือย และต้องการค่าแรงเพิ่มขึ้นทุกปี  ... เรียกว่า สหภาพแรงงานไม่มี "ดุลยภาพ" (Harmony)  หรือไม่มี give and take ... สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น ๆ
  • นี่คือที่มาของ การล้มสหภาพฯ ของนางมากาเร็ตแท็ตเชอร์ กับ โรนาว แรแกน  ร่วมมือกันถล่มสหาภาพ และเอาแนวคิดของฟิริตแมน มาใช้อย่างได้ผล 
  • จึงทำให้เกิด "MBA" ขึ้นทั่วโลก  ซึ่งสอนกันว่า ใช้ตัวเลขในการคิดเป็นหลัก ผลกำไรเป็นหลัก ไม่ได้ใช้ประชาชนเป็นหลัก  
  • ประเทศไทยก็สอน MBA กันทั่วประเทศ อย่างบ้าคลั่ง ถือเป็นความบ้าคลั่งทางวิชาการ  ทำให้ระบบทุนนิยมขยายตัวไปในประเทศอย่างรวดเร็ว
  • หลอกลวงว่า ถ้าคนรวย ๆ ขึ้น จะเอาเงินมาลงทุน ให้เกิดการสร้างงาน เกิดรายได้  ... แต่ความจริง เป็นไปในทางตรงข้าม คนรวย ๆ ขึ้น คนชั้นกลางจนลง  คนจนจนลง โดยชนชั้นปกครองก็ยัง หลอกลวงประชาชนต่อไป 
  • เพิ่งจะยอมรับกันไปทั่วโลก หลังจาก ๔๐ ปีผ่านไป  ว่า ระบบทุนนิยมเสรี คือระบบที่ "ปล้นคนจนไปให้คนรวย" 
  • ยกตัวอย่างเช่น  ๔๐ ปีที่แล้ว เราผ่อนบ้านเวลา ๑๕ ปี ผ่อนรถ ๓ ปี แต่วันนี้ ผ่อนบ้าน ๓๐ ปี ผ่อนรถ ๗ ปี   ....ต่อไป บ้านอาจต้องผ่อนตลอดชีวิต   ที่เป็นเช่นนี้เพราะ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และสาเหตุก็คือ "ทุนนิยมเสรี" 
  • พวกทุนนิยมเสรี แท้จริงแล้วก็ใช้ทฤษฎีการอยู่รอดของ ชาวส์ ดาวิน  "คนแข็งแกร่ง เท่านั้นที่จะอยู่รอด" บอกว่า  การปกป้องผู้อ่อนแอโดยรัฐ จะนำไปสู่ความพินาศของผู้อ่อนแอ และทำให้ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด
  • นายทุนใหญ่ ๆ เช่น แอนดรู คาเนกี้ ร็อคกี้ เฟลเลอร์ ฯลฯ นี้จะตั้งมูลนิธิฯ  เพื่อให้ทุนการศึกษากับประเทศโลกที่ ๓  เหมือนจะดี แต่ความจริงแล้ว เอาไปหลอมความคิด เอาไปเรียนกติกา  เพื่อเอาเงินทุนไปลงทุน ซึ่งผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือทุนใหญ่ ๆ นั่นเอง  ... เรียกว่า สิ่งที่ทำคือ Soft Power  
(จบม้วนครับ มาจับต่อบันทึกหน้า) ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง ครับ